Redis มุ่งพัฒนาแอปพลิเคชัน AI พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น RAG

Redis เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่หลายรายการเพื่อทำให้ฐานข้อมูลสามารถรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ดียิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ลดต้นทุนการแคชและเพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความสามารถในการบูรณาการข้อมูลอีกด้วย

บริษัท Redis ซึ่งเป็นผู้ให้บริการฐานข้อมูลในหน่วยความจำ ได้เปิดตัวอัปเดตฟีเจอร์ผลิตภัณฑ์หลายรายการเพื่อรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ในระดับองค์กร การอัปเดตฟีเจอร์ประกอบด้วย Redis for AI, Redis Flex, Redis Copilot และการบูรณาการข้อมูล Redis ฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ไม่เพียงแต่มอบเครื่องมือพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความสามารถในการบูรณาการข้อมูลเพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันที่รวดเร็วและขยายตัวได้อีกด้วย

ฐานข้อมูลหลายๆ ระบบเริ่มเพิ่มฟีเจอร์เฉพาะเพื่อรองรับความต้องการในการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI และ Redis ก็ไม่ต่างกัน Redis for AI นำเสนอฟีเจอร์มากมายสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน AI โดยเริ่มจากการรองรับการสร้างคำตอบที่เสริมการดึงข้อมูล (RAG) ที่ผสานกับฐานข้อมูลหน่วยความจำ Redis ที่รวดเร็ว ซึ่งมอบโครงสร้างพื้นฐานเรียลไทม์ที่สามารถเพิ่มความเร็วในการตอบสนองของแอปพลิเคชัน AI แบบกำเนิดใหม่ ฟีเจอร์แคชเชิงความหมายใหม่ยังช่วยให้สามารถดึงคำตอบที่บันทึกไว้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อลดต้นทุนการเรียกใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่

Redis for AI ยังมีฟีเจอร์หน่วยความจำโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่มอบบทสนทนาผู้ใช้ที่เป็นส่วนบุคคล อีกทั้งฟีเจอร์หน่วยความจำตัวแทนยังช่วยเพิ่มความเร็วในการให้เหตุผลเชิงซับซ้อนของตัวแทนเพื่อมอบคำตอบที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Redis for AI ยังมีฟีเจอร์การจัดเก็บลักษณะเด่นที่สามารถให้การทำนายความเร็วสูงต่ำกว่า 1 มิลลิวินาทีแก่การเรียนรู้ของเครื่องในสภาพแวดล้อมการผลิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโมเดลอย่างมาก

เนื่องจาก Redis ได้เข้าซื้อกิจการของ Speedb ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดเก็บข้อมูลแบบคีย์-แวลูเมื่อเร็วๆ นี้ Redis Flex ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Speedb จึงเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตครั้งนี้ Redis Flex เป็นบริการที่สามารถลดต้นทุนการแคชได้อย่างมาก โดยทางบริษัทระบุว่านักพัฒนาสามารถได้รับความจุการแคชเพิ่มขึ้น 5 เท่าในราคาที่เท่ากัน ในอดีต ฟีเจอร์การแบ่งชั้นอัตโนมัติของ Redis ใช้ได้กับการแคชขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ Redis Flex ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับประสิทธิภาพการแคชให้เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บ DRAM และ SSD โดยเฉพาะ ซึ่งมอบบริการแคชที่มีต้นทุนต่ำกว่าการแก้ปัญหาหน่วยความจำแบบดั้งเดิม

Redis ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยเสมือนฟรีชื่อ Redis Copilot เพื่อช่วยนักพัฒนาค้นหาข้อความ สร้างโค้ดและคำสั่งอย่างรวดเร็ว และยังสามารถใช้ภาษาธรรมชาติในการค้นหาข้อมูลได้อีกด้วย Redis Copilot มีประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายคลึงกับผู้ช่วยเสมือนทั่วไป เพียงแต่ตอบสนองกับฟีเจอร์และความต้องการของ Redis ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้นักพัฒนาสามารถได้รับคำตอบที่แม่นยำยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Redis ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์การบูรณาการข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงานของแอปพลิเคชัน การบูรณาการข้อมูลช่วยให้สามารถซิงค์ข้อมูลจากฐานข้อมูลภายนอกไปยัง Redis ได้โดยอัตโนมัติ นักพัฒนาเพียงแค่ใช้ API เพื่อทำการเชื่อมต่อ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการพัฒนา แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลอีกด้วย